กิน เห็ด สารพัดประโยชน์ อายุยืน

เรื่องของ “เห็ด” นับว่าน่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง “เห็ดที่รับประทานได้และเป็นที่นิยมกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นทั้งอาหาร ก็จะได้สรรพคุณ แล้วก็เป็นทั้งยาด้วยในตัว ซึ่งเมื่อรับประทานเห็ดแล้ว ก็จะได้สรรพคุณ ทางยาสมุนไพรไปด้วยพร้อมๆกันทันทีแต่บางท่านอาจจะไม่ชอบรับประทานเห็ดกันเท่าไรนัก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากจริงๆ
เนื่องจากเห็ดที่เราท่านรับประทานกันเป็นอาหารนี้ มีคุณค่าทาง โภชนาการมาก มีสารพิเศษที่เป็นยาผสมผสานอยู่ในเนื้อเห็ดด้วย ทั้งที่ ก้านดอกเห็ดแล้วก็ส่วนของหมวกของดอกเห็ด เรียกว่าทุกส่วนตั้งแต่โคน ก้านดอกไปจนถึงส่วนปลายสุดที่เป็นหมวกของเห็ด มีสารอาหารที่ดีมี ประโยชน์ และมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรอยู่เสมอ
เราแนะให้ท่านหันมาบริโภคเห็ดชนิดต่างๆ กัน เพื่อสุขภาพของท่านเอง ทั้งได้รับสารอาหารและได้รับสารพิเศษที่ ดอกเห็ดมีอยู่ ซึ่งเป็นยาสมุนไพรที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ให้มาขอให้เข้าใจว่า “เห็ด” ทุกชนิดที่นิยมรับประทานกันอยู่ในปัจจุบัน มีคุณค่ามาก เห็ดมีสารพิเศษต้านเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเซลล์มะเร็ง เห็ดบำรุงกำลัง ร่างกาย ให้สมบูรณ์แข็งแรง เห็ดต้านไวรัส ทำลายแบคทีเรีย แก้อาการอักเสบได้มากมายที่ อวัยวะต่างๆของคนเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้สนใจพอสมควร
เรื่องของเห็ด อาหารที่เป็นยาของมนุษย์
คนเรานิยมรับประทาน “เห็ด” กันมาแล้วช้านาน เห็ดมีอยู่หลายๆพันธุ์ด้วยกัน มนุษย์เราเอามาปรุงเป็นอาหาร รับประทานกันเสมอ ไม่ว่าชนชาติไหนก็นิยมรับประทานเห็ดกันทั้งนั้น เห็ดเป็นพืชที่มีรสชาติดี อร่อย นุ่มนวลชวนรับประทานมาก สามารถเอามาปรุงเป็นอาหารต่างๆ ได้มากมายทีเดียว เช่น เห็ดหอมที่มี คุณค่าทางโภชนาการมากมายและเป็นยารักษาโรคด้วยในตัว
คนจีนนิยมรับประทานเห็ดหอมกันมาก รวมทั้งเห็ดสายพันธุ์อื่นๆ อีก เช่น เห็ดที่เย่อ เห็ดหูหนู เห็ดฟาง เห็ดเจียะเย่อ เห็ดหุ่งจือ เห็ดโอ่วซุงนั่ง เห็ดหูหนูขาว เห็ดเก่าเท้าคู่ง เห็ดหลิงจ๋อ คนจีนรู้จักรับประทานเห็ดมาช้านานแล้วจริงๆ โดยเอาเห็ดชนิด ต่างๆมาปรุงเป็นอาหารร่วมกับอาหารประเภทอื่นๆ ด้วยอย่างเหมาะสม รสชาติจะดีเพิ่มมากยิ่งขึ้น
รับประทานเห็ดแล้วถือเป็นของเย็น เป็นยาเย็น รับประทาน เห็ดแล้วไม่เพิ่มแคลอรี่มากเหมือนอาหารอื่น ๆนี่เองเห็ดจึงมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นยา ไม่ทำลายและเกิดการ เผาผลาญร่างกายให้เกิดโทษขึ้นเช่นอาหารอื่นๆ ที่มีการเผาผลาญหรือมี พลังแคลอรี่มากเกินไป เอาเห็ดมาผัดกับผักต่างๆก็อร่อย รสชาติดี เอาเห็ดมาต้มแกงจืดก็ดี อร่อย นิ่มนวล รสชาติดี เหมาะสมและ เป็นอาหารที่นิยมรับประทานกันมากการตุ๋น ต้ม นึ่ง เห็ดสามารถเอามาปรุงด้วยได้เสมอ เหมาะสมและ ถูกต้องในการปรุงเป็นอาหารต่างๆเหล่านี้คนจีนเอาเห็ดมานั่งกับปลา ต้มกับปลา หรือตุ๋นกับเป็ด ไก่ ได้ อย่างออกรสชาติมาก บางทีก็เอาเห็ดมาทำเป็นน้ำแกงได้อย่างอร่อย
เอาเห็ดหอมมาตุ๋นกับเครื่องยาจีนที่มีสรรพคุณทางยาด้านช่วย ย่อย บำรุงตับ ไต ได้ดี บำรุงกำลังร่างกายได้มากมาย ปฏิบัติกันมาแล้ว ช้านานจนกระทั่งปัจจุบันคนไทยเราก็เอาเห็ดชนิดต่างๆมารับประทานกันได้อย่างเอร็ดอร่อย ด้วยเช่นกัน เป็นต้นว่า เอาเห็ดฟางมาผัดกับผักบางอย่างรวมกันออก รสชาติที่ดีมาก บางทีก็เอาเห็ดฟางมาใส่ลงไปในต้มยำหรือเอามาเป็นส่วนผสม ของผักอย่างหนึ่งในแกงเลียงผักรวม ซึ่งอาจจะมีบวบเหลี่ยมหรือ บวบหอมก็ได้ แล้วเอามารวมกับข้าวโพดฝักอ่อน ใบแมงลัก เนื้อฟักทอง
เอาเห็ดเผาะมาต้มเค็มหวาน หรือเอามาแกงคั่วก็อร่อยเช่น เดียวกันได้รสชาติที่ดีมาก เห็ดหอมเอามาใส่ลงไปในเป็ดตุ๋นจะออกรสและกลิ่นของเห็ดหอม อย่างน่ารับประทานมาก น้ำของเป็ดตุ๋นจะหอมหวาน กลิ่นรสดียิ่งนัก เห็ดหูหนูเอามาผัดเปรี้ยวหวานก็อร่อย เอามายำก็ยิ่งดี เอาไปใส่ ผสมลงไปในยำวุ้นเส้นก็ยิ่งอร่อย กรุบ กรอบ ดีจริงๆ
คนไทยเรายังมีเห็ดพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่รสชาติเด็ดขาดมาก นั่นก็ได้แก่เห็ดโคนนั่นเอง เป็นเห็ดที่ขึ้นเองตามป่าดงบางแห่งขึ้นเอง ตามธรรมชาติ แต่รสดีมาก เอามาต้มยำก็อร่อย เอามาแกงจืดก็รสชาติยอดเยี่ยมดีมาก เห็ดนางรม หรือเห็ดนางฟ้า หรือเห็ดเข็มทอง หรือเห็ดเป๋าฮือก็เอามาแกงจืด เอามายำเอามาผัดร่วมกับผักชนิดต่างๆก็ได้เสมออาหารที่ปรุงได้ด้วยเห็ดมีอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการ ที่ดีมากเพราะเป็นยาอยู่ด้วยในตัวเอง

เห็ดต่าง ๆ เป็นพืชหรือไม่
ความจริงเห็ดชนิดต่างๆนั้น เป็นพืชในตระกูลเชื้อราอย่างหนึ่ง นั่นเอง เจริญเติบโตได้ดีเมื่อมีความชื้น และความอบอุ่นที่พอเหมาะเกิดขึ้น นับว่าเห็ดต่างๆเป็นพืชชั้นต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับพืชอื่น ๆ เห็ดนั้นปรากฏว่ามีอยู่หลายสายพันธุ์ที่เดียว เหมือนกับเชื้อรา ต่างๆก็มีอยู่มากมายทั้งมีพิษและไม่มีพิษ
เห็ดก็เช่นเดียวกัน มีทั้ง “เห็ดที่ไม่มีพิษ” แล้วก็ “เห็ดมีพิษ” ด้วย “เห็ดที่ไม่มีพิษ” สามารถเอามารับประทานเป็นอาหารได้เสมอ แต่ก็ห้ามเอา “เห็ดที่มีพิษ” มาประกอบอาหารรับประทานเด็ดขาด พิษ ร้ายของเห็ดพิษอาจจะรุนแรงถึงตายได้
เมื่อพบเห็นเห็ดที่แปลกๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือเป็นเห็ดที่มีสีสัน สวยๆงามๆ นั้นจงอย่าไปเอามาประกอบอาหารรับประทานทีเดียว เพราะไม่แน่ว่าจะเป็นเห็ดมีพิษหรือไม่ซึ่งส่วนมากแล้วเห็ดที่มีสีสันสวยๆ โดยเฉพาะที่ส่วน “หมวก” ของเห็ด มักจะเป็นเห็ดมีพิษ เห็นไหมว่าเห็ดที่รับประทานได้มักจะเป็นเห็ดที่ไม่มีสีสัน แปลก ๆ หรือมีสีสันขาวนวล หรือมีสีคล้ำตามปกติธรรมดา ถ้าเห็ดที่แปลก ๆ มีสีส้ม สีแสด สีด่างดวง สีสลับกัน แปลกๆมักจะเป็นสีของเห็ดที่มีพิษ
สังเกตดูว่าเห็ดฟาง หรือเห็ดโคน หรือเห็ดนางรม หรือเห็ดนางฟ้า หรือเห็ดเป๋าฮือ หรือเห็ดอะไรก็ตามที่รับประทานได้ไม่มีสีสันแปลกๆ ความจริงแล้วเห็ดชนิดต่างๆนั้นก็มีอยู่ไม่มากมายนัก มีอยู่ไม่กี่ ชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีในท้องตลาด ซึ่งซื้อขายกันอยู่
เห็ดบางอย่างอาจจะเป็นเห็ดที่มีอยู่ประจำท้องถิ่น เป็นเห็ดที่ ไม่แพร่หลายออกมาสู่สายตาคนทั่วไปก็มี เป็นที่ทราบกันอยู่ในหมู่ของ ชาวบ้านที่เคยเก็บเห็ดเหล่านี้มารับประทานอย่างที่เคยพบเห็น ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่ามีเห็ดพื้นเมืองต่างๆขึ้นเองตามต้นไม้ต่างๆ เช่น ต้นมะม่วง ต้นทองหลาง และต้นแค ชาวบ้านบอกว่ารับประทานได้ก็เก็บเอามารับประทานกันมาแล้ว ช้านานจนปัจจุบัน นับว่าเป็นเห็ดที่เอามาประกอบอาหารรับประทานได้ดีทีเดียว อร่อยอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของเห็ด
ได้มีการวิเคราะห์แล้วทางวิทยาศาสตร์ด้วยการเอาเห็ด ชนิดต่างๆหลายชนิด มาเพื่อให้ทราบถึงความชื้น (น้ำ) โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต กากหรือเส้นใยอาหาร เถ้าแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก รวมไปถึงเรื่องของวิตามินต่างๆ เพื่อจะได้ทราบว่ามีอยู่มาก น้อยเพียงไร เช่น วิตามิน เอ เบต้า แคโรทีน วิตามิน บี 1 หรือไธอะมิน วิตามิน บี 2 หรือ ไลโบฟลาวิน ไนอะซีน และวิตามิน ซี
รวมทั้งการวิเคราะห์พลังงานที่ได้รับมาจากอาหารอีกด้วย คือ โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต โดยจะมีการคำนวณด้วยวิธีการ โปรตีน (Protein) ในปริมาณ 1 กรัม ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ไขมัน (Fat) ปริมาณ 1 กรัม ให้พลังงาน จำนวน 9 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) ในปริมาณ 1 กรัม ให้พลังงาน 1 กิโลแคลอรี่ วิตามิน เอ เบต้า แคโรทีน (Vitamin A/Beta-Carotene)
ค่าของวิตามิน เอ แสดงผลเป็น ไมโครกรัมของเรตินอล ค่าของ เบต้า แคโรทีน แสดงผลเป็นไมโครกรัมของ เบต้า แคโรทีน เห็ดชนิดต่างๆที่นำเอามาวิเคราะห์แล้ว มีอยู่ส่วนหนึ่งยังไม่อาจจะ
วิเคราะห์ได้ทั้งหมด